Gen Z ไม่ชอบโดนตำหนิแบบเงียบ ๆ
…โดยเฉพาะจากหัวหน้าที่ “เงียบใส่แต่สายตาไม่เป็นมิตร”
เคยเจอแบบนี้ไหม?
คุณทำงานพลาดนิดหน่อย แต่หัวหน้าไม่พูดอะไรตรงๆ ไม่ถาม ไม่คุย แต่กลับ…
📲 โพสต์แซะ ๆ ลงไลน์กลุ่มว่า “บางคนทำงานไม่ละเอียด ทำให้ทีมเสียเวลา”
😒 ส่งอีโมจิหน้าเบ้แบบไม่มีคำอธิบาย
🚶♂️ เดินผ่านแบบเย็นชา แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ไม่ได้โกรธ แค่ผิดหวัง”
ฟังดูเป็นวิธีเตือนแบบ “อ้อมๆ” ใช่ไหม? แต่นี่แหละคือสิ่งที่ Gen Z ไม่อิน…แถมรู้สึกแย่กว่าโดนตำหนิตรง ๆ ซะอีก
🙅♀️ เพราะอะไร Gen Z ถึงไม่โอเคกับแบบนี้?
เพราะเจนนี้โตมากับการ “พูดตรง-พูดเลย” พวกเขาไม่ได้ต้องการความนุ่มนวลแบบโลกสวย แต่ต้องการความ “จริงใจ” ที่ไม่ทำให้เสียหน้า และไม่ต้องมานั่งทายว่า “ตอนนี้หัวหน้าคิดอะไรอยู่?” พูดง่ายๆ คือ Gen Z ไม่อยากอ่านใจหัวหน้า เขาอยากได้ Feedback ที่ “ฟังแล้วพัฒนาได้เลย”
งานวิจัยจาก SHRM (Society for Human Resource Management) ระบุว่า “Gen Z ที่ได้รับ feedback แบบตรง-ชัด-สร้างสรรค์ มีแนวโน้มพัฒนาตัวเองได้สูงขึ้นถึง 40%”
นั่นเพราะพวกเขา “รับได้” ถ้าหัวหน้าพูดด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ แต่ “รับไม่ได้” ถ้าโดนสื่อสารแบบประชดหรือปล่อยให้เดาเอาเอง
แล้วหัวหน้าแบบไหนที่ Gen Z ยกให้เป็น “หัวหน้าในดวงใจ”?
✅ กล้าพูดตรง แต่ไม่ทำให้เสียหน้า พูดแบบเข้าใจ ไม่ประชด ไม่เหน็บ ไม่แฉกลางวง
✅ ชมเมื่อควรชม ติงเมื่อควรติง ไม่ใช่เก็บไว้ แล้วมาจัดเต็มทีเดียว ตอนประเมินผลงานปลายปี
✅ คุยกันเหมือนมนุษย์ ไม่ใช่ลูกน้องที่ต้องกลัวเจ้านาย ใช้คำพูดแบบ “มาช่วยกันดูดีกว่าว่าทำยังไงให้ดีขึ้น” ไม่ใช่ “ทำไมทำไม่ได้แบบที่สั่ง?”
สิ่งนี้เรียกว่า Fostering Collaboration หนึ่งใน 6 ทักษะของผู้นำในโมเดล IMPACT Leadership Model (ผลจากการวิจัยร่วมกันของ Slingshot Group กับ Center for Creative Leadership) หัวใจของทักษะนี้คือ…
“การสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทีมสื่อสารกันตรง ๆ เพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อดราม่า” ผู้นำที่ดีไม่จำเป็นต้อง “เป็นเพื่อนกับลูกน้อง” แต่ต้อง “เปิดใจให้คุยกันได้ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องที่ผิดพลาด”
🎯 ตัวอย่างจริงในองค์กร มีหัวหน้าคนหนึ่งเคยบ่นว่า
“น้องในทีมเหมือนไม่พัฒนาเลย บอกหลายรอบก็ยังทำผิดซ้ำๆ อยู่เหมือนเดิม”
เมื่อเราขอให้เขาเล่ากระบวนการ Feedback ที่ใช้จริงให้ฟัง
กลับพบว่า…เขา “ไม่เคยพูดตรง ๆ กับน้องเลย” แต่จะพิมพ์แซะในแชทกลุ่ม หรือใช้วิธี “เงียบใส่” และหวังว่าน้องจะรู้ตัวเอง
หลังจากลองเปลี่ยนวิธีมาใช้ “1:1 Coaching แบบใจเย็น” เริ่มต้นด้วยคำว่า “พี่อยากให้น้องพัฒนาเรื่องนี้ เพราะมันมีความสำคัญกับความสำเร็จในภาพรวมของทีมเรา” ปรากฏว่า…น้องคนนั้นพัฒนาขึ้นแบบเห็นได้ชัดในเวลาเพียง 2 อาทิตย์ และที่สำคัญ เขาไม่รู้สึกถูกตำหนิ แต่รู้สึกว่า “ได้รับโอกาสในการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น”
💡สรุปง่ายๆ Gen Z ไม่กลัวการถูกติง…แต่กลัวการ “โดนเมิน” แบบไร้เสียง
การสื่อสารที่ดี ไม่ใช่แค่ตรงไปตรงมา แต่ต้องจริงใจพอที่จะพูดกับเขา “เพื่อให้เขาดีขึ้น” ไม่ใช่ “เพื่อให้หัวหน้าได้ระบายอารมณ์หรือความรู้สึก”
แล้วคุณล่ะ…เคยเจอหัวหน้าสไตล์ “ไม่พูดแต่โพสต์” ไหม?
หรือคุณมีเทคนิคการฟีดแบคยังไงให้คนฟังไม่ตั้งการ์ด มาคุยกันหน่อยครับ