17 มิถุนายน 2016

rice

จากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงนั้น หนึ่งในปรากฏการณ์สำคัญที่สร้างผลกระทบให้แก่โลกของเรานั่นก็คือ ‘ปรากฏการณ์เอลนีโญ่’ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุณหภูมิผิวน้ำทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก โดยปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลกระทบให้บริเวณชายฝั่งขาดธาตุอาหารสำหรับปลาและนกทะเล ชาวประมงจึงขาดรายได้ อีกทั้งทำให้ฝนตกหนักในตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ แต่ยังก่อให้เกิดความแห้งแล้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียตอนเหนือ รวมทั้งการที่เกิดไฟใหม้ป่าอย่างรุนแรงในประเทศอินโดนีเซีย ก็เป็นเพราะปรากฏการณ์เอลนีโญด้วย

eco-business.com ได้เขียนบทความถึงผลกระทบของปรากฏการณ์ดังกล่าวที่อาจก่อให้เกิดภาวะขาดแคลนข้าวในอนาคต โดยปริมาณน้ำฝนที่ลดลงและภัยแล้งที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่จะส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าวในเอเชียใต้และคุกคามต่อความปลอดภัยในการนำเข้าอาหารของแอฟริกาตะวันตกหรือไม่ Oxfam media ได้สรุปภาพจำลองเหตุการณ์อนาคตเพื่อเตือนถึงภาวะดังกล่าวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งประเทศอินเดีย หรือ The India Meteorological Department (IMD) ได้คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า ประเทศอินเดียตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ต้องประสบกับปริมาณน้ำฝนที่ต่ำกว่า 90% ปรากฏการณ์ Madden Julian Oscillation หรือ MJO คือความผันผวนของระบบชั้นบรรยากาศที่ทำให้เกิดความแปรปรวนของปริมาณน้ำฝนที่เบาบางลง ซึ่งในเดือนสิงหาคมมีปริมาณน้ำฝนลดลง 23%

Oxfam (องค์กรระหว่างประเทศ มีวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาความยากจน และมีเครือข่ายทำงานในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก) รายงานว่า พัฒนาการของเอลนีโญ่ในช่วงครึ่งหลังของฤดูมรสุมอาจจะมีพลังมากยิ่งขึ้นกว่าในปี 1997-1998 และสภาวะเอลนีโญ่มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปในปี 2016

ตามรายงาน Oxfam ได้สรุปไว้ว่า คนยากจนในเขตชุมชนและเมืองของประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตกนิยมข้าว ซึ่งมันง่ายต่อการเตรียมการและการเก็บรักษา อย่างไรก็ตามการผลิตข้าวในประเทศเหล่านี้ยังอยู่ในระดับที่ต่ำและไม่สามารถตอบสนองต่อการบริโภคที่เพิ่มขึ้นได้

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้คาดการณ์ไว้ในปี 2006 ว่าการนำเข้าข้าวของประเทศแอฟริกากลางและตะวันตกจะเพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านตัน ซึ่งเป็นการนำเข้ามาจากเอเชียใต้ อย่างประเทศอินเดีย ปากีสถาน และรวมไปถึงประเทศจีนด้วย

ตามรายงานของ Oxfam ในขณะที่แอฟริกานำเข้า 1 ใน 3 ของข้าวที่มีอยู่ในตลาดโลก เมล็ดข้าวส่วนใหญ่ที่มีการซื้อขายอยู่ใกล้กับพื้นที่การผลิตในเอเชีย ดังนั้น Oxfam จึงระบุว่า ตลาดโลกค่อนข้างจำกัดและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการหยุดชะงัก

ในปี 2014 ประเทศในแอฟริกาตะวันตกนำเข้าข้าว 7.73 ล้านตัน โดยทั้งหมดรวมตัวกันนำเข้าข้าวมากกว่า 1 ใน 3 จากอินเดีย ซึ่งสัดส่วนในการนำเข้าของแต่ละประเทศจะแตกต่างกันไป เช่น ไนเจอร์นำเข้าข้าว 13% จากอินเดีย แกมเบียและไอวอรีโคสต์ 20% ไนจีเรีย 23% เซเนกัล 72% และไลบีเรียนำเข้ามากถึง 97% ส่วนประเทศที่เหลืออื่นๆ นำเข้าจากปากีสถานและจีน

เจ้าหน้าที่จากอินเดียกล่าวกับ SciDev.Net ว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล “แม้ว่าปรากฏการณ์เอลนีโญ่จะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในเดือนสิงหาคมและกันยายน ที่เห็นได้ชัดเลยคือปริมาณน้ำฝน 77% รัฐบาลได้มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีต่อการคาดการณ์อย่างทันเวลาของ IMD” Shivananda Pai นักวิทยาศาสตร์ของสำนักงาน IMD ที่เมืองปูเน่ได้กล่าวไว้

มาตรการที่เหมาะสมรวมถึงการจำกัดการปลูกข้าวพันธุ์ที่ต้องการน้ำมาก ในบริเวณพื้นที่หลักที่ขาดแคลนปริมาณน้ำฝนใน รัฐกรณาฏกะ(Karnataka) และ รัฐมหาราษฏระ (Maharashtra) ซึ่งไม่ได้เป็นรัฐผลิตข้าว Pai กล่าวกับ SciDev.Net

Pramod Aggarwal ผู้อำนวยการโครงการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ คณะที่ปรึกษาระหว่างประเทศด้านการวิจัยทางการเกษตร (CGIAR) ซึ่งเป็นโครงการวิจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเกษตร และความมั่นคงทางด้านอาหาร กล่าวยอมรับกับ SciDev.Net ว่าขณะที่ปรากฏการณ์เอลนีโญ่ส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าว รัฐบาลอินเดียยังคงมีสินค้าคงคลังสำรองเพียงพอที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก

The FAO’s rice market monitor (RMM) หรือรายงานการสังเกตการณ์ตลาดข้าว ในเดือนตุลาคมได้ปรับลดการคาดการณ์การผลิตข้าวทั่วโลกในปี 2015 ลง เมื่อพิจารณาถึง สภาพภูมิอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของสภาพอากาศจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่  ปัจจุบัน FAO ได้คาดการณ์การผลิตข้าวทั่วโลกในปี 2015 จะอยู่ที่ประมาณ 742.6 ล้านตัน หรือน้อยลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนกรกฎาคม 6.5 ล้านตัน

ที่มา: http://www.eco-business.com/news/el-nino-may-lead-to-rice-shortfall/




Writer

โดย พัชรวรรณ สุทธิรักษ์

เจ้าหน้าที่บริการฝึกอบรมอาวุโส ฝ่ายฝึกอบรม
สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ