17 November 2017

วันที่ 11 เดือน 11 หรือ “วันคนโสด” กลายเป็นวันหยุดสำหรับขาช็อปออนไลน์ทั่วโลกซะแล้ว จากยอดขายสินค้าออนไลน์ของอาลีบาบาในปีนี้สูงถึงกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาราว 39%  ด้วยรูปแบบการกระตุ้นให้เกิดการซื้อมาจากหลากหลายวิธีทั้งการจ่ายเงินจองสินค้าล่วงหน้า แต่จะจ่ายคืนให้ตามราคาสินค้าจริงที่ลดลง และต้องรับสินค้าในวันดังกล่าวเท่านั้น หรือการซื้อคูปองส่วนลดสำหรับสินค้ารายการพิเศษ ซึ่งผู้บริโภคจะจ่ายน้อยกว่าการจองล่วงได้  หรือการสุ่มหาผู้โชคดีจากบัญชีรายชื่อในกลุ่มลูกค้าของ Alipay ในช่วง 1 เดือนก่อนวัน คนโสด และสิ่งสำคัญแสดงให้เห็นถึงอำนาจซื้อชองคนชั้นกลางในประเทศจีนที่มีมากกว่า 300 ล้านคน ซึ่งส่งผลอย่างชัดเจนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนี้

จากจุดเริ่มต้นของเทศกาลเกิดขึ้นโดยกลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรมในรั้วโรงเรียน ราวปี พ.ศ. 2533 เป็นวันเปิดโอกาสให้คนไร้คู่ได้ออกมาพบปะสังสรรค์ ฉลองชีวิตโสด และยังเป็นวันสละโสดของคนกลุ่มนี้ในเวลาเดียวกัน จนเป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านสื่อออนไลน์  และนำไปการสร้างสู่โอกาสทางธุรกิจของอาลีบาบา ในปี 2552 ซึ่งมองเห็นความต้องการของคนกลุ่มนี้ ที่อยากซื้อหาสินค้าให้ตนเองเป็นของขวัญ จึงจัด “เทศกาลช็อปปิ้งสินค้าราคาถูก” แม้ในช่วงแรกจะมีแบรนด์สินค้าเข้าร่วมเพียง 27 ราย แต่ด้วยยอดขายถล่มทลายกว่า 260 ล้านบาทในปีแรก ดึงดูดให้มีผู้ผลิตสินค้าเข้าร่วมจำนวนมากขึ้น จนในปีนี้ อารีบาบาได้นำสินค้ากว่า 15 ล้านรายการ จากแบรนด์ดังต่างๆกว่า 140,000 ยี่ห้อ รวมทั้งแบรนด์ดังจากทั่วโลกอีกว่า 60,000 แบรนด์จากทั่วโลก มาลดราคาในเว็บไซต์ และยังรวมเอาร้านสะดวกซื้ออีกกว่า 6 ร้านทั่วประเทศ นำสินค้าขายผ่านคลังสินค้าอารีบาบาโดยตรง

แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอารีบาบา  เคยให้สัมภาษณ์ว่า “…กลุ่มชนชั้นกลางในประเทศจีน จะเพิ่มขึ้นถึง 500 ล้านคนในอีก 15 ปี” นั่นคือตลาดขนาดใหญ่ ของกลุ่มผู้มีกำลังซื้อ แต่การทำความเข้าใจ คนกลุ่มนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า จะเห็นว่าวันคนโสดได้สร้างปรากฏการณ์ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ ให้กลายเป็นเรื่องของความบันเทิง ในการได้เข้าไปร่วมสนุกกับการค้นหาสินค้าที่ชอบ จดจ่อกับราคาสินค้า ได้รับความรู้สึกของการแข่งขัน เป็นเกมส์กีฬา ซึ่งการสร้างประสบการณ์ช๊อปปิ้งให้เกิดความสนุกสนาน เกิดความสุขในเลือกหาสินค้า จะเป็นการออกแบบคุณค่าที่ตรงกับลักษณะของคนกับกลุ่มคนโสด ซึ่งอาลีบาบาก็พยายามออกแบบ คุณค่า ลักษณะนี้ให้เกิดขึ้นโดยปลุกกระแสด้วยกิจกรรมเคาท์ดาวน์วันช็อปปิ้งคนโสด ที่มีดาราระดับโลก และ นักกีฬาชื่อดังมาสร้างสีสัน ซึ่งล้วนเป็นการตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ ที่ให้ความสนใจกับกระแสของโลก ต้องการสินค้าทันสมัย แฟชั่น  เห็นได้จากยอดขายสินค้ากลุ่มนี้ จะสูงมาก อย่างแบรนด์ไนกี้ ยูนิโคล่ และสามารถซื้อได้หลากหลายชิ้น ด้วยจำนวนเงินเดียวกันในวันปกติ เพราะคนกลุ่มนี้ยังต้องการยอมรับจากคนในสังคม จึงให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าคุณภาพสูง มีแบรนด์เป็นที่ยอมรับ ซึ่งการสามารถเข้าถึงสินค้าคุณภาพสูงเหล่านี้ของลูกค้ากลุ่มคนโสด จึงเป็นโอกาสของแบรนด์ต่างๆเช่นกัน ที่จะสร้างความผูกพันธ์ให้เกิดขึ้นกับลูกค้ากลุ่มนี้ เนื่องจากเป็นลูกค้ากลุ่มที่ชอบลอง ชอบเรียนรู้ ไม่ผูกติดกับอะไรนานๆ เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสของสังคม ดังนั้นความพยายามดึงดูดให้ลูกค้ามาสนใจสินค้า และเกิดประสบการณ์ต่อตราสินค้า จนเกิดความผูกพันธ์จึงเป็นโอกาสของแต่ละแบรนด์ 

นอกจากนี้การออกแบบ ระบบการจอง จ่าย การจัดส่ง ที่ไม่ซับซ้อน รวดเร็ว การรับประกัน สามารถรับสินค้าได้ภายใน 1 วัน ยิ่งทำให้ ลูกค้า สามารถนำสินค้าไปใช้อย่างรวดเร็ว เป็นการสร้าง คุณค่า ในการให้บริการออนไลน์กับทั้งผู้จัดจำหน่าย ผู้จัดส่ง จนถึงลูกค้า เกิดความพึงพอใจสูงสุด

ดังนั้น “วันช๊อปปิ้งของคนโสด” ที่กำลังเป็นกระแสเกิดขึ้นในหลายประเทศ นอกจากประเทศจีน ทำให้มองเห็นกลุ่มผู้บริโภคซึ่งมีศักยภาพสูง ซึ่งกำลังจะสร้างปรากฏการณ์ และการเปลี่ยนแปลงอะไรอีกมากมายในอนาคต จึงเป็น โอกาส ของธุรกิจ ที่ต้องทำความเข้าใจความต้องการที่แท้จริง และปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์ คุณค่า ให้คนกลุ่มนี้ได้รับประโยชน์สูงสุด

ที่มา : คอลัมน์ Think Productivity หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ




Writer

โดย ดร.ต่อเกียรติ น้อยสำลี

• วิทยากรอิสระ และผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการและพัฒนานวัตกรรม
• ให้การฝึกอบรมด้านการสร้างผู้นำเชิงปฏิรูป การปฏิรูปทีมงาน การปรับปรุงผลการดำเนินงานของทีมงาน การวางแผนกลยุทธ์ คิดเชิงกลยุทธ์ การคิดอย่างเป็นระบบ การแก้ปัญหาและการตัดสินใจ การบริหารโครงการ การพัฒนาและสร้างนวัตกรรม ให้กับภาคผลิตและภาคบริการ