8 June 2015

การพิมพ์ 3 มิติ หรือ 3D printingจะเติบโตถึง  16.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฯ  ภายในปีค.ศ. 2018   เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าจะทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดของผลิตภัณฑ์ในปีค.ศ 2013   ซึ่งอยู่ที่ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

Canalys   บริษัทวิเคราะห์อิสระเกี่ยวกับอนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี  ได้คาดการณ์ถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของเครื่องพิมพ์ 3 มิติ  ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเพียงเครื่องพิมพ์ แต่ยังรวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์    การบริการที่เกี่ยวข้องด้วย จากยอดการจำหน่ายทั่วโลกในปีค.ศ. 2013   ที่มีมูลค่าสูงถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์   Canalys  คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีค.ศ. 2014   และจะเติบโตอย่างรวดเร็วถึง  16.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายใน ปีค.ศ. 2018 นี้    โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR)  ในช่วงปีค.ศ. 2013-2018   สูงถึง 45.7%

อย่างไรก็ตาม    ในขณะที่ตลาดมีศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นปัญหาและอุปสรรคเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์อาวุโส  Canalys  ทิม  เชพเพิร์ด กล่าวว่า  “    ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่ทำให้พิมพ์ได้เร็วขึ้นและสามารถผสมผสานวัตถุดิบ สี      จนเสร็จสิ้นเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปทำให้ราคาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  นอกจากนี้  เทคโนโลยีนี้ยังเป็นทางเลือกให้องค์กรและผู้บริโภคได้เห็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่พร้อมใช้งาน    ซึ่งเคยเป็นข้อจำกัดของคอมพิวเตอร์ที่ช่วยดีไซน์ (CAD)    ซึ่งจะต้องเร่งปรับปรุงให้ทันต่อเทคโนโลยีดังกล่าว    การพิมพ์ 3 มิติ ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำตัวอย่างและโมเดลของลักษณะของสินค้า   ปัจจุบันได้นำไปใช้ในหลากหลายแขนงอุตสาหกรรม เช่น วิศวกรรม  สถาปัตยกรรม    การบินและอวกาศ และการป้องกันประเทศ   และทางการแพทย์    ( โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประดิษฐ์ขาเทียม)  ทำให้มั่นใจได้ว่า การพิมพ์ 3D จะมีอิทธิพลอย่างมาก ภายใน 5 ปีนี้ ”

ในระยะสั้น Canalys คาดการณ์ว่า การบริการพิมพ์ตามความต้องการจะยังเติบโตอยู่ในช่วงที่ยังมีความล่าช้าในการเข้าถึงเทคโนโลยี ”  นี่คือ  โอกาสที่ชัดเจนสำหรับบริษัทที่จะสร้างสตูดิโอสำหรับการบริการพิมพ์ 3D    ในการตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์ของลูกค้าที่เทคโนโลยีนี้สามารถทำให้เป็นไปได้”  โจ   เคมป์ตัน  นักวิเคราะห์วิจัย Canalys กล่าวว่า

 ความต้องการยังคงเติบโต และขับเคลื่อนด้วยสามปัจจัยหลัก    คือ    ศักยภาพในการผลิตตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะราย    ( Customization potential )      ความสะดวกสบาย ( Convenience )  และประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต ( Manufacturing efficiencies )

สามารถพิมพ์ตามคำสั่งเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D    และสามารถทำได้ในจำนวนน้อย ๆ  โดยไม่ต้องพึ่งพากระบวนการผลิตขนาดใหญ่   ซึ่งจะทำให้มีของเสียลดลงและจะใช้วัตถุดิบที่ใช้พลังงานที่ต่ำกว่ากระบวนการผลิตแบบเดิม   เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ที่คุ้มค่า และทำให้การเจริญเติบโตของตลาดเข้มแข็งขึ้น

มูลค่าของการตลาดเครื่องพิมพ์ 3D  เติบโตเพิ่มขึ้น 109%   ในปีค.ศ. 2013  คิดเป็น 711 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  และคาดว่าจะเติบโต 79% ในปีค.ศ. 2014  และถึง 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ   มูลค่าการตลาดคาดว่าจะเติบโตถึง  5.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ   ในปีค.ศ. 2018    การเติบโตดังกล่าวจะเพิ่มปริมาณของความต้องการเครื่องพิมพ์ในเชิงพาณิชย์มากขึ้นซึ่งจะทำให้วัสดุอุปกรณ์สนับสนุนต่าง ๆ  ของเครื่องพิมพ์เติบโตทั้งเชิงปริมาณและเชิงมูลค่าด้วย

” เราอยู่ในช่วงอิทธิพลการพิมพ์ 3 มิติจากการผลิตจำนวนมาก ๆ   เกินความต้องการมาสู่การผลิตที่ใช้เทคโนโลยีที่สามารถผลิตต้นแบบได้จริง    มีความสร้างสรรค์    ซับซ้อน    แข็งแรงทนทาน ”   เชพเพิร์ด กล่าวว่า ”   นี่เป็นตลาดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจ   ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการหน้าใหม่จะเข้ามาแข่งขันทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากในอุตสาหกรรมจากนี้ไป    รวมถึง บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง HP  เมื่อสามารถก้าวข้ามอุปสรรค และมีการใช้งานใหม่ ๆ   เกิดขึ้น   เทคโนโลยีมีการปรับปรุงขึ้นและมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาร่วมมากขึ้นซึ่งจะทำให้ตลาดเกิดความแตกต่างจากนี้ไปอีกใน 5 ปีข้างหน้า

ตารางที่ 1 :  เป้าหมายการตลาด การพิมพ์ 3 มิติ

 

3 d ตาราง

 

 

 

 

 

 

ที่มา    http://www.canalys.com/newsroom/3d-printing-market-grow-us162-billion-2018

 




Writer

โดย นัยนา หอมจันทร์

เจ้าหน้าที่สนับสนุนธุรกิจ แผนกสนับสนุนธุรกิจ
สายงานธุรกิจ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ