25 August 2017

หนึ่งในเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นเพื่อใช้ขับเคลื่อนภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมไปสู่ “Industry 4.0” อย่าง Virtual reality (VR) ได้ถูกพัฒนาและต่อยอดจนเกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมาย ดังเช่น Google Glass ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกจากบริษัท Google ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า องค์กรยักษ์ใหญ่กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ก้าวกระโดดไปสู่อนาคต

Google หันมาพัฒนา Google Glass Enterprise Edition อีกครั้ง โดยจับมือร่วมกับ Intel ที่ช่วยประมวลผลข้อมูลได้มากขึ้น และเน้นไปที่คนทำงานอุตสาหกรรมทั้งด้านโรงงาน ก่อสร้าง และสุขภาพเป็นหลัก ซึ่งพัฒนาร่วมกับพันธมิตร กว่า 50 บริษัท เช่น คือ  Boeing, DHL , Volkswagen , GE Aviation , Samsung ฯลฯ โดยสร้างซอฟต์แวร์เฉพาะทางสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม ส่วนตัวฮาร์ดแวร์ Glass ก็ถูกปรับปรุงให้น้ำหนักเบากว่าเดิม สวมใส่สบายขึ้น มีสมรรถนะมากขึ้น และแบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น เพื่อช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการในขณะที่มือสองข้างกำลังทำงานอยู่และคนสามารถทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะในเรื่องนั้นๆ ตัวอย่างเช่น

GE Aviation ผู้ให้บริการเครื่องยนต์เจ็ทนำแว่น GEE ไปช่วยงานประกอบและซ่อมแซ่มชิ้นส่วนเครื่องยนต์ยานอวกาศ

ผู้ผลิตเครื่องยนต์เจ็ท มีสูญเสียเงินเป็นล้านเหรียญต่อปีเนื่องจาก น๊อตที่ปิดผนึกสายและท่อน้ำมันและท่อที่หลวมเกินหรือแน่นเกินจะมีผลต่อการจ่ายพลังงานให้เครื่องบิน ซึ่งเดิมพึ่งพาทักษะคนในขันน๊อต แต่ภายหลังบริษัทได้ร่วมกับ Google Glass ในการสร้างโซลูชัน AR ที่เชื่อมต่อแรงบิดแบบสมาร์ทในทุกขั้นตอนในการสร้างเครื่องยนต์ไอพ่นที่ต้องการขันน๊อตให้แน่น ซึ่งเป็นกลไกแจ้งเตือนของ Skylight ผ่านแว่นตาอัจฉริยะโดยเมื่อใช้ไขควงแรงบิด และประแจแรงบิดที่เชื่อมต่อกับ Wi-Fi แรงบิดจะแชร์ข้อมูลกับเซิร์ฟเวอร์ Skylight จะแสดงค่าให้ช่างเห็นถึงค่าที่บิด โดยมีค่ามาตรฐานขึ้นมาเทียบให้เห็นความแตกต่างทันที “นี่คือศักยภาพในการลดข้อผิดพลาดลดค่าใช้จ่ายและปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์”

DHL บริษัทโลจิสติกส์นำแว่น GEE ให้พนักงานใช้เพื่อรับคำแนะนำแบบรีลไทม์เกี่ยวกับพัสดุที่ถูกส่งมายังโกดังสินค้าและช่วยให้การย้ายสินค้าคงคลังทำได้เร็วขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพของกระบวนการทำธุรกิจดีขึ้นถึง 15%

DHL ได้ทดลองใช้ Google Glass กับ Excel ที่เป็นบริษัทด้านการจัดส่งสินค้าของดอยช์โพสต์ที่เป็นซัพพลายเชนของ บริษัท ดีเอชแอล ในคลังสินค้าในสหรัฐฯเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต– โดยเปลี่ยนเครื่องสแกนเนอร์แบบพกพาและใบสั่งงานกระดาษด้วย Google Glass ที่สามารถบอกคนงานให้ค้นหาผลิตภัณฑ์ได้เร็วที่สุดจากกว่าหนึ่งล้านรายการและสามารถอ่านบาร์โค้ด ซึ่งช่วยลดเวลาในการรับสินค้าและบรรจุภัณฑ์เพื่อจัดส่ง

Adrian Kumar รองประธานฝ่ายออกแบบโซลูชั่นของ Exel กล่าวว่า เทคโนโลยีเช่น Google Glass สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในช่วง Peak เมื่อ Exel ได้ว่าจ้างคนงานชั่วคราวเป็นพัน ๆ คน “นี่คือคนที่อยู่นอกถนนที่ไม่คุ้นเคยกับคลังสินค้าของเราไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่และเราเห็นศักยภาพมากสำหรับสถานการณ์ประเภทนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการฝึกอบรม”

แพทย์ที่ Dignity Health กำลังใช้ Glass พร้อมกับแอปที่เรียกว่า “”remote scribe”” เพื่อลดงานด้านการบริหาร จาก 33 % เหลือน้อยกว่า 10 % ต่อวัน

” Google Glass ได้นำมาใช้แทนการพิมพ์บนคอมพิวเตอร์ในระหว่างการปรึกษาหารือพวกเขาสามารถเชื่อมต่อกับผู้ป่วย ผ่านการบันทึกผ่านแว่นขณะพูดคุยหรือถามคำถามและจะบันทึกการทำงานเพื่อเก็บเป็นข้อมูลทันที นอกจากนั้นช่วยปรับปรุงคุณภาพการดูแลแล้ว ยังช่วยลดเวลาในการพิมพ์บันทึกผู้ป่วยและงานด้านการบริหารอื่น ๆ

AGCO

เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรขนาดใหญ่ที่ใช้ Google Glass Enterprise Edition            ให้พนักงานตรวจสอบรายการสินค้าและสร้างคู่มือการใช้งานสำหรับประกอบชิ้นส่วนจักรกลการเกษตรได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้แว่นนี้ทั้งโรงงานและภาคสนาม และสามารถสร้างซอฟต์แวร์เฉพาะที่แต่ละธุรกิจที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน

 

ที่มา :

The Rebirth of Google Glass on the Factory Floor

http://www.techrepublic.com/article/google-glass-reborn-with-improved-enterprise-edition-for-workers/




Writer

โดย ดุจดาว ดวงเด่น

ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนบริหารการผลิต ฝ่ายปรึกษาแนะนำ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
ปริญญาโท พัฒนบริหารศาสตร์มหาบัณฑิต (การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ประสบการณ์การเป็นวิทยากร ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล อาทิ HR Scorecard ,COMPETENCY , Knowledge Management Assessment
Professional Trainer , การสร้างสัมพันธภาพในงาน, Smarter Meeting , Daily Management for Supervisor in Industrial Sector, Productive Supervisor ให้กับองค์กรชั้นนำ