15 กันยายน 2017

เทคโนโลยีซึ่งพลิกโฉมโลก หรือที่เรียกว่า Disruptive Technology ได้เข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจในหลากหลายประเทศ Blockchain ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีในบริบทดังกล่าว ที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้คน เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ลองมาดูกันว่าหากประยุกต์เข้ากับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์แล้ว Blockchain จะเข้ามาสร้างประโยชน์ในแง่มุมใดได้บ้าง

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับ Blockchain ในฐานะเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสำหรับ Bitcoin ในรูปแบบของ Cryptocurrency Klaus Schwab, Founder and Executive Chairman of the World Economic Forum, provides this summary in his book on the Fourth Industrial Revolution : “In essence, the blockchain is a shared, programmable, cryptographically secure and therefore trusted ledger which no single user controls and which can be inspected by anyone.” ด้าน Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารของ World Economic Forum ได้กล่าวสรุปในหนังสือเกี่ยวกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 ของเขาว่า “ในความเป็นจริง Blockchain คือ บัญชีแยกประเภทที่ใช้ร่วมกัน เป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง และไม่มีผู้ใช้รายใดควบคุมได้ ในขณะเดียวกันทุกคนในเครือข่ายสามารถตรวจสอบได้”

Blockchain เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ที่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นพลังอันน่าอัศจรรย์ จากการสำรวจผู้บริหารระดับสูง 800 รายแสดงให้เห็นว่า 58% เชื่อว่า GDP 10% ของโลกจะถูกจัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain

การมาของเทคโนโลยี Blockchain มีส่วนช่วยอย่างมาก ด้วยคุณลักษณะสำคัญหลายอย่างที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์และนำไปประยุกต์ใช้ คือ

  • ธุรกรรมได้รับการยืนยันและอนุมัติโดยความเห็นร่วมกันระหว่างผู้เข้าร่วมเครือข่ายทำให้การฉ้อโกงยากยิ่งขึ้น
  • มีการบันทึกธุรกรรมทุกรายการที่เกิดขึ้น ช่วยให้ทุกคนสามารถติดตามหรือตรวจสอบธุรกรรมได้
  • เทคโนโลยีนี้ทำงานแบบกระจายศูนย์ ไม่มีการรวมศูนย์ ข้อมูลจะถูกคัดลอกไปอยู่ในทุกโหนดในเครือข่ายในเวลาจริง ซึ่งจะอัพเดทพร้อมกันตลอดเวลา

คุณสมบัติที่กล่าวมานั้น Blockchain ไปไกลเกินกว่าการให้บริการด้านการเงินแบบเดิม ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมใด ๆ วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการทำงาน หรือห่วงโซ่อุปทาน Blockchain สามารถรองรับกิจกรรมที่แตกต่างหลากหลาย เพื่อสร้างความไว้วางใจและการประสานงานกันอย่างเป็นระบบ

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อ Blockchain เข้ามาในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์นั้น ปัญหาลิขสิทธิ์และค่าตอบแทนมีมาช้านาน เกิดข้อร้องเรียนจากศิลปินคือ การที่เหล่าบรรดานักฉวยโอกาสและบริษัทตัวกลางอย่าง YouTube และ Spotify ถูกเพิ่มเข้าไปในห่วงโซ่คุณค่า เพื่อเข้ามาเอาส่วนแบ่ง โดยที่ศิลปินแทบไม่ได้อะไรกลับมาเลย กลายเป็นรายได้ร่วมกันหรือเป็นค่าโฆษณาไป ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ผลงานของศิลปินก็แทบไม่ถูกพูดถึง   การนำเทคโนโลยี Blockchain ไปประยุกต์ จะสามารถกำหนดวิธีการที่ศิลปินได้รับค่าตอบแทน โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างสรรค์ผลงานกับผู้บริโภคโดยไม่ผ่านตัวกลาง

“วันนี้ เมื่อใครต้องการที่จะจ่ายเงินเพื่อสิทธิในการเล่นเพลงคอนเสิร์ตหรือสิทธิ์ในการเล่นเพลงภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เกิดการขัดแย้งในการทำธุรกรรมและเป็นปัญหาที่สะสมมายาวนาน”

“ท้ายที่สุดผู้คนก็เลือกที่จะทำสิ่งนั้นโดยไม่ยอมจ่ายหรือไม่ทำมันเลย“People end up doing it without paying or not doing it at all..”

“ในความเป็นจริง งานด้านความคิดสร้างสรรค์มีมูลค่ามาก “It’s likely the case that [creative work] is in reality worth much more, but the problem is creative work is undervalued due to all of the transaction frictions we see today. แต่ปัญหาคือได้รับการประเมินมูลค่าต่ำเกินไปเนื่องจากความขัดแย้งทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการทำธุรกรรมที่เราเห็นในวันนี้

Wences Casares  ซีอีโอของ Xapo หนึ่งในผู้ดูแลที่ใหญ่ที่สุดของ Bitcoin กล่าว

ที่มา: www.weforum.org/agenda/2017/07/how-can-creative-industries-benefit-from-blockchain

 




Writer

โดย ยุธิชล ศรีตัญญู

เจ้าหน้าที่สนับสนุนธุรกิจ แผนกสนับสนุนธุรกิจ
สายงานธุรกิจ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ