19 พฤษภาคม 2017

ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ทรัพยากรมนุษย์มีความสำคัญต่อความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์หรือหุ่นยนต์ ถูกนำมาใช้มากขึ้น จึงทำให้มนุษย์ต้องปรับตัว เพื่อให้ยังคงอยู่รอดได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลง

แล้วงานของคุณจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์หรือไม่?

คำถามดังกล่าว เป็นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกมาพูดถึง เมื่อ Big Data และ Machine Learning ซึ่งเป็นการพัฒนาเครื่องจักรให้สามารถเรียนรู้ได้เอง ตลอดจนปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ ยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อาชีพและงานบางประเภทจึงอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะถูกทดแทนด้วยการทำงานอัตโนมัติของคอมพิวเตอร์หรือหุ่นยนต์

ในอดีต พนักงานโรงงานซึ่งทำหน้าที่ประกอบเครื่องมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เคยเป็นกลุ่มคนที่ต้องกังวัลว่า “หุ่นยนต์จะเข้ามาแย่งงานของพวกเขา” แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป เพราะอาชีพต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถ พนักงานเสิร์ฟอาหาร แคชเชียร์ ตลอดจนตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าขององค์กรต่างๆ กลับกลายเป็นอาชีพที่ต้องอยู่บนความเสี่ยง หรือแม้แต่อาชีพที่ได้รับค่าตอบแทนสูงอย่าง ผู้เชี่ยวชาญการวินิจฉัยโรคทางการแพทย์และทนาย ก็จะพบว่างานบางส่วนถูกแทนที่โดยการใช้บริการจาก Outsource มากขึ้น

จึงเกิดเป็นคำถามสำคัญที่ว่า “แล้วงานประเภทไหนที่จะปลอดภัยในอนาคต?”

เมื่อมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ประเทศอังกฤษ คาดการณ์ว่า ภายใน 25 ปีข้างหน้า กว่า 35% ของงานในอังกฤษอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบการทำงานอัตโนมัติ แล้วเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพแบบไหนที่คุณควรเลือกเพื่อความปลอดภัย?

คำตอบคือ คุณต้องประกอบอาชีพที่มีคุณสมบัติหรือทักษะเหล่านี้ 

ความคิดสร้างสรรค์และทักษะ (Creativity and skill)

นักแสดง ศิลปิน นักกีฬาอาชีพ นักดนตรี เป็นกลุ่มอาชีพที่ค่อนข้างปลอดภัยจากการถูกแทนที่ด้วยระบบกลไกอัตโนมัติ

ในเวลานี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คอมพิวเตอร์จะมาทดแทนความคิดสร้างสรรค์ คอมพิวเตอร์สามารถวาดภาพหรือเขียนบทกลอนได้ แต่ทว่าก็จำเป็นต้องใช้ภาพวาดและบทกลอนจากผู้อื่นเป็นตัวอย่าง จึงถือว่าไม่ใช่ความคิดส้รางสรรค์ที่แท้จริง เฉกเช่นเดียวกันกับอาชีพนักกีฬา ที่คนจำนวนน้อยเท่านั้นถึงจะสนใจเกมกีฬาฟุตบอลที่มีผู้เล่นเป็นหุ่นยนต์ หรือ หุ่นยนต์ปั่นจักรยานแข่งขันในรายการ ตูร์ เดอ ฟรองซ์ เพราะความสนุกของกีฬาคือการชมเกมที่มนุษย์ร่วมแข่งขันเพื่อความสำเร็จ

ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ศิลปินหรือนักกีฬาที่มีความเชี่ยวชาญ งานที่ต้องการวุฒิการศึกษาระดับสูงในด้านความคิดสร้างสรรค์และทักษะก็ยังคงเป็นที่ต้องการและปลอดภัยจากการถูกทดแทนด้วนระบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น นักเขียน กราฟิกดีไซเนอร์ นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี ผู้ฝึกสอน ช่างภาพ สถาปนิก ทนายความ นักฟิสิกส์ ตลอดจนแพทย์ผ่าตัดและอื่นๆ

ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น (Empathy)

อีกหนึ่งสิ่งที่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าใจได้ดีเท่ามนุษย์คือ ความเห็นอกเห็นใจ โดยงานที่ต้องการปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนด้วยกันไม่น่าถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติภายในระยะเวลาอันใกล้นี้ ถึงแม้ว่าปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นตัวพิสูจน์ว่าคอมพิวเตอร์สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบง่ายๆ ได้ ดังเช่น การตอบคำถามพื้นฐานแก่ลูกค้า รวมทั้งรับโทรศัพท์ได้อย่างถูกต้อง แต่อาชีพที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญอย่าง นักบำบัด ซึ่งต้องเข้าใจและสามารถปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้ในเชิงรุก ยังมีความเป็นไปได้น้อยที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ

งานประเภทนี้รวมทั้ง สัตวแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ ผู้ฝึกสอนฟิตเนส นักดับเพลิง เจ้าหน้าที่ตำรวจ (ซึ่งต้องมีทักษะเฉพาะตัว) ผู้ดูแลเด็ก อาจารย์ ตลอดจนผู้ให้แนะนำและที่ปรึกษา

ความเฉพาะตัว (Specificity)

ในขณะที่ระบบอัตโนมัติกำลังเป็นที่ต้องการในวงกว้าง ผู้เชี่ยวชาญที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะตัว เป็นกลุ่มคนที่จะไม่พ่ายแพ้ต่อหุ่นยนต์ในอนาคต

ตัวอย่างดังเช่น ไกด์ทัวร์ท้องถิ่น ที่ไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ เฉกเช่นเดียวกับอาชีพนักจัดดอกไม้ ช่างทำผม และช่างแต่งหน้า ที่จำเป็นต้องมีความกระฉับกระเฉง คล่องแคล่วเฉพาะตัว พร้อมทั้งยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์สูง ซึ่งหุ่นยนต์ยังไม่สามารถทำหน้าที่แทนได้ งานบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ก็ไม่ถูกทดแทนด้วยระบบการทำงานอัตโนมัติด้วยเช่นกัน เนื่องจากคงจะไม่สะดวกนัก ถ้าหากต้องนำหุ่นยนต์เข้าไปยังพื้นที่ปฏิบัติงานกลางป่า

เทคโนโลยี (Technology)

สำหรับงานประเภทสุดท้ายที่ยังปลอดภัยจากการถูกแทนที่คือ งานที่สนับสนุน ซ่อมแซม ดูแล ตลอดจนสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่จะเข้ามาพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต

เนื่องจากระบบกลไลอัตโนมัติ ยังต้องการการดูแลตรวจสอบ โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้น ถึงแม้ว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะสามารถจัดทำระบบบัญชีของบริษัทได้ แต่ทว่านักบัญชีก็จำเป็นต้องทำการตรวจสอบข้อผิดพลาดอยู่เช่นกัน เหมือนดังเช่นที่คอมพิวเตอร์สามารถตั้งโปรแกรมซื้อโฆษณาสำหรับบริษัท ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าการซื้อถูกต้องตรงตามแบรนด์บริษัท

ในขณะที่งานบางประเภทไม่สามารถอยู่รอดได้ในสภาวะความเปลี่ยนแปลงไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต แต่งานบางประเภทกลับถูกยกให้มีความสำคัญขึ้น เพื่อเป็นผู้ดูแลเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลก บริษัทใหญ่ๆ ไม่จำเป็นต้องจ้างงานแผนกบัญชีทั้งแผนก เพียงแต่จ้างพนักงานบัญชีแค่คนเดียว เพื่อตรวจสอบคุณภาพงานที่คอมพิวเตอร์ทำ เมื่อการใช้ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น งานที่จะช่วยสนับสนุนระบบดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น งานซ่อมบำรุง งานติดตั้ง งานวางกลยุทธ์เทคโนโลยี ก็จะเป็นที่ต้องการในตลาดมากขึ้นด้วยเช่นกัน

และท้ายที่สุด แน่นอนว่ากลุ่มคนที่เป็นผู้คิดค้นและประดิษฐ์หุ่นยนต์ รวมทั้งปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงได้รับการจ้างงานต่อไป ซึ่งรวมทั้ง วิศวกร โปรแกรมเมอร์ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล

แล้วงานของคุณล่ะ เข้าข่ายงานที่ประกอบด้วยทักษะที่ปลอดภัยสำหรับอนาคตหรือไม่?

ที่มา: https://www.forbes.com/sites/bernardmarr/2016/08/12/will-these-4-skills-help-future-proof-your-career/#22cd86db3cc0




Writer

โดย อรวรรณ ศิริเจริญ

เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กร ส่วนสื่อสารองค์กร
ฝ่ายกลยุทธ์และการตลาด สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ